ความแตกต่างระหว่างส่วนเสริม 1 และ 2
ไวยากรณ์ภาษาเยอรมันแยกความแตกต่างระหว่างสามโหมดที่เป็นไปได้ของกริยา โหมดหนึ่งเป็นแบบเสริม ซึ่งเรียกอีกอย่างว่ารูปแบบความเป็นไปได้ ส่วนที่ผนวกเข้ามาจะถูกแบ่งออกเป็นส่วนเสริม 1 และส่วนที่เสริม 2 อีกครั้ง คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดายว่าเมื่อใดควรใช้ส่วนเสริมใดเมื่อคุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองรูปแบบแล้ว
![เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างรูปแบบเสริม](/f/e829716b879c210a9797d6846df30c02.jpg)
ใน ไวยากรณ์ แสดงถึงความเป็นไปได้โดยใช้การเสริม ในภาษาเยอรมัน ภาษา มีสองรูปแบบที่เป็นไปได้ แบบผนวก 1 และแบบเสริม 2 มีความแตกต่างระหว่างทั้งสองที่คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองรูปแบบของความเป็นไปได้
- คำพูดทางอ้อมและภาษาเขียนเป็นการใช้งานหลักของการเสริม 1
- คำพูดทางอ้อมจะใช้เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการทำซ้ำข้อความจากบุคคลที่สาม
- ตัวอย่างของการเสริม 1 คือประโยคต่อไปนี้: "เธอบอกว่าเธอกำลังจะว่ายน้ำ"
- ส่วนที่ผนวก 2 มักใช้ในประโยคเงื่อนไข
- ด้วยส่วนเสริม 2 คุณแสดงข้อเท็จจริงที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือไม่จริง ดังนั้นส่วนที่ผนวก 2 จึงเรียกว่าสิ่งที่ไม่เป็นจริง
- คุณสามารถใช้ในรูปแบบความสุภาพ
- ตัวอย่างสำหรับ subjunctive 2 คือประโยคต่อไปนี้: "ถ้าฉันใหญ่กว่า ฉันจะถูกเอาจริงเอาจังมากขึ้น"
ไม่ใช่ทุกคนที่มีไวยากรณ์ อย่างไรก็ตาม ที่โรงเรียนคุณต้อง ...
วิธีแยกความแตกต่างระหว่างส่วนเสริม 1 และ 2
- ตรงกันข้ามกับเสริม 2 ที่เสริม 1 มีสามกาลอดีตปัจจุบันและอนาคต
- ส่วนที่ผนวกเข้ามา 1 เกิดขึ้นจากก้านกริยาและส่วนท้ายที่เสริมเข้ามา
- ตอนจบที่ได้มาจากการบ่งชี้ในปัจจุบันจะเหมือนกันสำหรับกริยาส่วนใหญ่
- ตอนจบที่ผนวกเข้ามาของกริยา "go" คือ: I go, you go, he / she / it going, we go, you go, they go
- ตารางผันคำกริยาหลายคำมีอยู่ในเว็บไซต์ รวมไปถึงสถานที่อื่นๆ กระบองเพชร2000.
- เสริม 2 มีสองกาลอดีตและปัจจุบัน
- เสริม 2 มาจากอดีตกาล
- การลงท้ายแบบเสริมจะเหมือนกับในภาคผนวก 1
เมื่อคุณคุ้นเคยกับการใช้และการก่อตัวของการเสริม 1 และ 2 แล้ว มีไซต์มากมายบนอินเทอร์เน็ตที่คุณสามารถฝึกประโยคเสริมได้ เว็บไซต์ดีๆที่มีมากมาย การออกกำลังกาย คือ z NS. การฝึกไวยากรณ์
.
คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์เพียงใด